วัดมหาธาตุ ที่ตั้งของ พระธาตุนคร ประจำคนเกิดวันเสาร์ ริมโขงเมืองนครพนม

วัดมหาธาตุ พระธาตุนคร คนเกิดวันเสาร์

วัดมหาธาตุ วัดเก่าแก่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนครพนม และยังเป็นที่ตั้งของ พระธาตุนคร พระธาตุประจำคนเกิดวันเสาร์อีกด้วย

ประวัติวัดมหาธาตุ ในระยะแรกที่พระยามหาอำมาตย์(ป้อม) สร้างเมืองนครพนม ขึ้นนั้น มีเพียง วัดมหาธาตุ วัดเดียวเท่านั้นจึงขนามนามว่า วัดมิ่งเมือง(คือวัดมหาธาตุในปัจจุบัน) เป็นวัดใหญ่ประจำเมืองเป็นศูนย์กลางการปกครองการศึกษา มีพระมหาเถระ มีครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ปกคองดูแลและอำนวยการศึกษาอยู่เป็นประจำ และเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการใหญ่น้อย

ยุคต่อมา วัดมิ่งเมือง ชาวบ้นทั่วไปเรียกกันติดปากว่า วัดธาตุ ทั้งนี้เพราะผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสู่ลูกหลานฟังเป็นทอดๆ มาว่าที่วัดมิ่งเมืองนี้ มีพระอรหันต์ สารีริกธาตุ บรรจุอยู่ในธาตุเจดีย์องค์หนึ่งในบริเวณวัดมิ่งเมือง มีเจดีย์ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หลายสิบองค์ เจ้าบ้านผู้ปกครองบ้านเมืองแต่ก่อนนิยมสร้างเจดีย์เป็นที่บรรจุอิฐของบิดามารดาปู่ย่าตายายใว้ในวัด ยิ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่บ้านก็นิยมสร้างใว้ในวัดใหญ่ วัดมิ่งบ้านมิ่งเมือง เห็นว่าสมเกียรติ เป็นที่เชิดหน้าชูตามีสง่าราศรี ความนิยมเช่นนี้ก็เลยลุกลามมาถึงประชาชนทั่วไปใครสามารถพอจะทำได้ก็ทำ และตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ในวัดจึงเต็มไปด้วยธาตุเจดีย์ สร้างขึ้นมาเพื่อบรรจุอิฐ ซึ่งไม่เป๋นระเบียบเหมือนในปัจจุบัน

ปี พ.ศ. 2462 พระครูพนมคณาจารย์เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุและเจ้าคณะจังหวัดนครพนม ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คือพระยาพนมครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรภ) ข้าราชการผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่หลักบ้านหลักเมืองและนิมนต์พระสงค์ พระผู้ใหญ่ในวัดเข้าร่วมประชุม โดยได้แถลงต่อที่ประชุมว่าอยากจะรื้อถอนธาตุเจดีย์เก่าแก่ คร่ำคราอันระเกะระกะไม่เป็นระเบียบอยู่ในวัดมากมาย เฉพาะอย่างยิ่งอยู่แถวมุมโบสถ์ด้านเหนือและด้านตะวันออก แล้วสร้างพระธาตุนครขึ้นมาใหม่

ในการสร้างพระธาตุเจดีนี้ ในส่วนที่เป็นลวดลายอันวิจิตรบรรจงตระการตาตลอดจนถึงทรวดทรงขนาดและสัดส่วนนั้น เป็นฝีมือของญาท่าวบุ บ้านหว้านใหญ่ อำเภอมุกดาหาร และญาท่าวม้าว บ้านเสาเล้า อำเภอท่าอุเทน

หลักฐาน พระธาตุนคร มีลักษณะสี่เหลี่ยวจตุรัส กว้างด้านละ 5.85 เมตร สูง 24.00 เมตรมีรูปร่างตามพระธาตุพนมองค์เดิม รูปทรงตั้งบนฐานใหญ่ 2 ฐาน ต่อลดหลั่นกันตามลำดับ แต่ละฐานมีรูปประตูอยู่ตรงกลางบนประตูเป็นรูปคล้ายบัวบาน มีรูปและลายต่างๆ ข้างประตูทำเป็นเครื่องไม้ดอกไม้ผล รูปพระราชาทรงช้างทรงม้า ต่อจากฐานใหญ่ทั้ง 2 ขึ้นไปแล้วก็มีลักษณะแหลมเรียวขึ้นตามลำดับตอนกลางในด้านทั้ง 4 วิจิตรไปด้วยหมู่ดาวกระจาย(ดอกกระจับ) ทำเป็นมุมเล็กเรียวขึ้นไปอีก แล้วทำเป็นรูปลักษณ์คล้ายกลีบบัวอีก ที่ยอดสูงก็คล้ายดอกบัวตูม ต่อจากนี้จึงเป็นฉัตรทองแดงเหลือง 7 ชั้น ยอดฉัตรนี้มีลูกแก้วเจียรไน 1 ดวง อยู่สูงสุดยอด

ฐานมีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน มีซุ้มประตูอยู่ตรงกลางทุกด้าน เนือซุ้มประตูมีรูปปั้นเทพนั่งขัดสมาธิประนมมือ(เทพพนม) ซึ่งเป็นเทพมเหศักดิ์รักษาองค์พระธาตุที่มุมกำแพงมีเสาสูงขึ้นแล้ว ทำเป็นดอกบัวตูมบนยอดเสาภายในกำแพงกว้างด้านละ 13.30 เมตร นอกกำแพงมีธาตุดูกล้อมอีกชั้นหนึ่ง บนธาตุนั้นเป็นที่สำหรับวางดอกไม้ ธูปเทียนนคราวมีงานพิธีต่างๆ

พระธาตุนคร ก่อสร้างเสร็จสิ้นลงในวันเพ็ญเดือนของปี พ.ศ. 2465 จึงได้มีการกำหนดวันที่ทำการฉลอง เพื่อบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำและเงินบรรจุผอบไม้จันทร์แดงที่ได้มาจากพระธาตุเจดีย์ องค์เดิมนั่นเอง ทั้งยังได้เปิดโอกาศให้ประชาชนผู้มีจิตเลื่อมใสได้นำเครื่องลางของขลัง ครุฑ ขอ นอ งา ตระกรุด หรือเพชรนิลจินดาเงินทองตลอดจนพระพุทธรูปเก่าแก่ และของมีค่าอื่นใดที่พระสงฆ์ ฉลองสมโภชซึ่งถือเป็นงานประจำปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกๆ ปี

วีดีโอรีวิววัดมหาธาตุ

ขอบคุณเนื้อหาจาก http://npmlocal.go.th/view_detail.php?boxID=935&id=27255